มีความสุขแบบคนโสด
และมีเงิน อย่างมีความหมาย “เมื่อไหร่จะแต่งงาน
โสดแบบนี้ใครจะดูแลตอนแก่ เงินเดือนเยอะขนาดนี้ ทำไมไม่ซื้อบ้านหลังใหญ่ๆล่ะ”
หากคุณเป็นคนโสด
คำถามเหล่านี้อาจจะเคยผ่านหูมาหลายครั้ง บางคำถามอาจเป็นเพียงการแซวเล่น
แต่บางครั้งมันสะท้อนแรงกดดันที่สังคมมีต่อคนโสดอย่างเรา สังคมมองว่าคนโสดต้องมีอิสระทางการเงินมากกว่าคนมีครอบครัว
ในยุคที่ใครๆ ก็พูดถึงการแต่งงาน การมีครอบครัว หรือการใช้ชีวิตคู่
หนังสือเล่มนี้กลับพาเรามามอง “ความโสด” ในอีกแง่มุม —
ไม่ใช่ในฐานะข้อบกพร่องของชีวิต แต่ในฐานะ “สถานะหนึ่ง”
ที่ต้องการการจัดการอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเรื่อง “เงิน”
ตั้งหลักทางการเงินแบบคนโสด
📌 เริ่มจากสำรวจสถานะการเงินของตัวเอง
1.
รายได้
o เงินเดือน, โบนัส, รายได้เสริม / จากการลงทุน
2.
รายจ่าย
o รายจ่ายประจำ (ค่าเช่าบ้าน, ผ่อนรถ, ค่าน้ำไฟ)
o รายจ่ายไม่ประจำ (ค่าเที่ยว, ค่าสังสรรค์)
o รายจ่ายแอบแฝง (ประกัน, ค่าสมาชิก, ค่าซ่อมของ)
3.
ทรัพย์สิน
o เงินสด, เงินฝาก
o กองทุน หุ้น อสังหาฯ
4.
หนี้สิน
o หนี้บัตรเครดิต
o หนี้บ้าน/รถ/สินเชื่อ
ตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ใช้สำหรับคุณ
หลังจากสำรวจสถานะการเงินของตัวเองแล้ว
ขั้นตอนต่อไปคือการตั้งเป้าหมาย
เพื่อให้เรารู้ว่าควรใช้เงินอย่างไรให้ตรงกับชีวิตที่เราต้องการ
🎯 ตั้งเป้าหมายทางการเงินแบบ
SMART
|
หลักการ |
ไม่ชัด |
SMART |
|
S – Specific
(เจาะจง) |
อยากมีเงินเก็บ |
จะเก็บเงิน 50,000 บาทใน 6 เดือน |
|
M –
Measurable (วัดผลได้) |
อยากลดรายจ่าย |
ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือยลง
20% ภายใน 5 เดือน |
|
A –
Achievable (ทำได้จริง) |
จะมีเงิน 10 ล้านในปีหน้า |
จะออม 10% ของรายได้ต่อเดือนเป็นเวลา 5 ปี |
|
R – Relevant
(สอดคล้องกับชีวิต) |
จะลงทุนทุกอย่างที่ให้ผลตอบแทนสูง |
จะลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะกับระดับความเสี่ยงที่รับได้ |
|
T –
Time-bound (มีกำหนดเวลา) |
จะปลดหนี้ให้ได้ |
จะปลดหนี้บัตรเครดิต
100,000 บาทใน 12 เดือน |
📌 งบประมาณแบบยืดหยุ่น ใช้ชีวิตได้เต็มที่แต่ยังเก็บเงินอยู่
หลัก 50/30/20
– สมดุลระหว่าง “ใช้ชีวิต” กับ “เก็บเงิน”
หลักการง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณควบคุมการเงินโดยไม่ต้องคิดมากเกินไป
o 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น
ค่าเช่าบ้าน ค่ากิน ค่าเดินทาง
o 30% สำหรับไลฟ์สไตล์ เช่น ท่องเที่ยว ช็อปปิ้ง กินข้าวนอกบ้าน
o 20% สำหรับการออมและลงทุน เช่น
เงินฉุกเฉิน กองทุนเกษียณ การลงทุน
🎯 จัดการค่าใช้จ่ายทางสังคมอย่างไรให้ไม่ลำบากใจ
4
วิธีรับมือค่าใช้จ่ายทางสังคมโดยไม่ต้องลำบากใจ
1.
มีงบประมาณค่าใช้จ่ายทางสังคมในแต่ละเดือน
2. เสนอทางเลือกที่ถูกกว่า
3. ฝึกพูดปฏิเสธอย่างนุ่มนวล
4. เลือกกิจกรรมที่สร้างความสุขได้โดยไม่ต้องใช้เงินเยอะ
📌 ออมเงินอย่างฉลาดและไม่อึดอัดใจ
การออมเงินที่ดี
ไม่ควรทำให้คุณรู้สึกว่ากำลังเสียสละอะไรบางอย่าง แต่ควรทำให้คุณรู้สึกว่า กำลังสร้างอนาคตที่มั่นคงในแบบที่เหมาะกับคุณ
🎯 เทคนิคการออมเงินให้ได้โดยไม่ต้องฝืน
หลายคนรู้สึกว่าการออมเงินคือการอดทนหรือตัดสิ่งที่ชอบออกไปแต่ถ้าเราลองเปลี่ยนมุมมองใหม่
การออมคือการดูแลตัวเองในอนาคต ความรู้สึกจะเปลี่ยนไปทันที
4 เทคนิคการออมเงินที่ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด
1.
ออมก่อนใช้
·
หักเงินออมทันทีที่เงินเดือนออก
แล้วใช้เงินที่เหลือ
2.
ตั้งตัวเลขเงินออมที่เหมาะกับตัวเอง
·
เริ่มต้นจาก 5-10% ของรายได้ แล้วค่อยๆเพิ่มขึ้น
ถ้าเดือนไหนรายได้เยอะ ก็เก็บเพิ่มได้
3.
แยกบัญชีเงินออมออกจากบัญชีรายจ่าย
·
ลองเปิดบัญชีแยกเฉพาะเงินออม
หรือใช้บัญชีที่ไม่มีบัตร ATM
4.
ออมเงินตามเป้าหมายที่ชัดเจน
·
ออมเงินให้มีเป้าหมาย
เช่น ทริปในฝัน การเกษียณหรือความมั่นคง ถ้าคุณออมเงินอย่างมีจุดหมาย
จะทำให้รู้สึกมีความหมายมากกว่าเก็บเงินไปเรื่อยๆ
🎯วิธีทำให้การออมเงินเป็นเรื่องสนุก
เปลี่ยนการออมเงินให้เป็นเกมหรือแชลเลนจ์
·
ตั้งแชลเลนจ์ให้ตัวเอง
เช่น เดือนนี้จะออมให้ได้มากกว่าค่าอาหารนอกบ้าน
·
ออมแบงก์ 50 บาททุกครั้งที่ได้รับมา
แล้วดูว่าครบปีคุณจะมีเงินเท่าไหร่
ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำได้ตามเป้า
·
ไม่จำเป็นต้องรอจนมีเงินเยอะแล้วค่อยฉลอง
ลองให้รางวัลชิ้นเล็กๆ กับตัวเอง
ใช้แอพพลิเคชันช่วยออมเงิน
·
แอปช่วยบันทึกรายรับ
– รายจ่าย และช่วยจัดการเงินออมให้เป็นระบบ
·
ตัวอย่างแอปที่นิยม
เช่น Happy Money, Money Lover, Spendee
“โสดก็รวยได้
ถ้าวางแผนเป็น”
การอยู่คนเดียว
ไม่มีคนช่วยหาร ก็ต้องบริหารเงินให้เป็น!
หนังสือเล่มนี้จะพาคุณสำรวจสถานะการเงินของตัวเอง ตั้งเป้าหมายแบบ SMART ใช้งบอย่างยืดหยุ่น และออมเงินแบบไม่ฝืนใจ
พร้อมเทคนิคจัดการค่าใช้จ่ายทางสังคม และเคล็ดลับเปลี่ยนการออมให้เป็นเรื่องสนุก
เพราะความโสดไม่ใช่ข้อด้อย แต่คือโอกาสในการดูแลตัวเองอย่างมั่นคงและมีความสุข