One Search

Home

April 02, 2020231 7

ที่มา : หนังสือ Super Productive

เขียนโดย : รวิศ หาญอุตสาหะ

ภาพประกอบ : https://freepik.com/

==============================

Lifelong Learning หรือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นคำที่ได้ยินกันบ่อยในยุคนี้ เพราะเราอยู่ในยุคที่ทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนแปลงและเคลื่อนที่ไปข้างหน้าในอัตราเร่งแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความรู้เดิมที่เคยมีหรือสิ่งที่เคยทำมา อาจไม่สามารถนำพาเราไปข้างหน้าได้อีกต่อไป

คนที่สามารถก้าวไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ต้องเป็นคนที่มีนิสัยของการเรียนรู้ตลอดชีวิต คำถามคือ แล้วเราจะต้องทำอย่างไร

บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง Mckinsey กล่าวถึง ทักษะแห่งอนาคต หรือ Skills of the future การมีทักษะความรู้เพียงอย่างเดียวนั้น ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตแล้ว จำเป็นจะต้องมีทักษะ การเรียนรู้ใหม่ และ Mindset ที่ดี เพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย Mckinsey เรียกทักษะนี้ว่า “Meta Skill”


  • Hard Skill คือ ทักษะเชิง “เทคนิคความรู้” เป็นทักษะความสามารถด้านอาชีพ หรือความชำนาญ ในการทำงานด้านนั้นๆ แม้จะเป็นทักษะเฉพาะ แต่ก็อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นทักษะนี้ก็จำเป็นต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อ Update ให้ทันการเปลี่ยนแปลงในด้านนั้นๆ


  • Soft Skill  คือ ทักษะด้าน “สังคม” เป็นทักษะในการอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การติดต่อสื่อสาร, การทำงานเป็นทีม, การโน้มน้าวใจ, บุคลิกภาพ เป็นต้น ซึ่งทักษะนี้จำเป็นมากขึ้น ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เป็นทักษะที่ทำให้เราแตกต่างจาก AI ได้


  • Meta Skill เป็นทักษะใหม่ที่เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง เป็นการสร้างทัศนคติแบบ Growth Mindset หรือพร้อมที่จะเติบโต กระตือรือร้นในการเรียนรู้ สนุกกับการแก้ปัญหา และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทาย เพื่อพัฒนาให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


The World Economic Forum เคยตีพิมพ์รายงานฉบับหนึ่งซึ่งระบุว่าภายในปี 2022 คนที่อยู่ในตลาดแรงงานทั้งหมดจะต้องใช้เวลาเฉลี่ย 101 วัน ในการเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ แต่การเรียนรู้ที่ว่านั้นไม่ได้หมายถึงการเรียนรู้วิชาใหม่เสียทั้งหมด แต่เป็นการเรียนรู้จากการทำงานไปด้วย หรือเรียนเรื่องบางอย่างเพื่อที่จะเรียนรู้แบบพอประมาณ ซึ่งตรงกันข้ามกับการเรียนรู้เรื่องใหม่แบบจริงๆ ที่มีกระบวนการในการเรียนรู้ค่อนข้างซับซ้อน และเป็นการเรียนรู้ศาสตร์หรือวิชาใหม่เลย

สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราอยู่รอดในยุคนี้ได้คือ คุณต้องเป็นเจ้าของกระบวนการเรียนรู้ทั้งหมดของตัวเอง การที่คุณจะเป็น self-directed learners ได้นั้น คุณต้องควบคุมตัวเองให้สามารถเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ได้ และต้องเป็นเจ้าของกระบวนการในการเรียนรู้ทั้งหมด นั่นหมายความว่า เราต้องมีความเข้าใจถึงกระบวนการของความเป็น self-directed learners ซึ่งกระบวนการที่ว่ามีดังนี้


  • เรียนได้ด้วยตนเอง โดยที่ไม่ต้องให้ใครมาเคี่ยวเข็ญ

  • วิเคราะห์ได้ว่าเราต้องเรียนเรื่องอะไร และเพราะอะไร

  • มีเป้าหมายที่ชัดเจน

  • ต้องรู้ว่าจะใช้ทรัพยากรอะไรบ้างในการเรียนรู้ เช่น ต้นทุนเวลาหรือค่าใช้จ่าย

  • เลือกกลยุทธ์ในการเรียน เช่น เรียนผ่านคอร์สสัมมนา อ่านหนังสือ หรือทั้งหมด

  • ต้องประเมินผลได้ ข้อนี้สำคัญมาก เพราะอะไรที่วัดไม่ได้ ประเมินผลไม่ได้ เราจะบริหารจัดการไม่ได้


วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างบริบทที่จะทำให้เราสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง ก็คือ การมี Growth Mindset เพราะคนที่มี Growth Mindset จะอยากเรียนรู้ เชื่อว่าทุกอย่างพัฒนาได้ ไม่เก่งก็ฝึก ไม่รู้ก็ต้องเรียน ซึ่งจะแตกต่างจากคนที่มี Fixed Mindset เพราะคนที่มี Fixed Mindset จะเชื่อว่าทุกอย่างบนโลกนี้ถูกกำหนดมาไว้หมดแล้ว คนนั้นเก่งก็เพราะว่าเขาฉลาดอยู่แล้ว เราไม่รู้เรื่องนั้นหรอกเพราะเราไม่ได้เรียนมา หรือเราคงไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองหรอก มันคงยากเกินไปสำหรับเรา

และถ้าหากยังนึกไม่ออกว่าจะตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ยังไง ลองใช้เป้าหมายแบบ SMART ดูก็ได้ครับ


การตั้งเป้าหมายแบบ SMART ประกอบด้วย

S = Specific = ชัดเจน

M = Measurable = วัดผลได้

A = Action-oriented = ระบุเลยว่าจะทำอะไร

R = Realistic = อยู่ในความเป็นจริง

T = Time-defined = เป้าหมายที่ตั้งจะสำเร็จเมื่อไหร่


และอย่าลืมบริหารจัดการเวลาให้ดี เพราะคนที่เป็น self-directed learners ที่ดี จะต้องมีการวางแผนเรื่อง Time management ที่ดีด้วยเป็นของที่มาคู่กันเสมอ

อ่านต่อวิธีการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เช่น กฎ 5 ชั่วโมงของเบนจามิน แฟรงคลิน / Active Learning: เรียนรู้แบบแอ็กทีฟ และ จัดลำดับความสำคัญด้วยกฎ 80/20 ได้ในหนังสือ Super Productive เขียนโดย คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ครับ


หนังสือเล่มนี้ นอกจากจะพูดถึงวิธีการทำอย่างไร จึงเป็นคนที่เรียนรู้ได้ตลอดชีวิตแล้ว ยังได้รวบรวมเทคนิคเพื่อดึงศักยภาพสูงสุดของคุณ โดยได้เลือกสรรเทคนิคที่คิดว่าสำคัญ เพื่อช่วยค้นพบศักยภาพที่ซ่อนอยู่อีกมากในตัวคุณผู้อ่านครับ


เปิดโลกการเรียนรู้ สู่การลงทุน ผ่านคลังความรู้ขนาดใหญ่ ที่มีหนังสือกว่า 30,000 เล่ม ได้ที่ห้องสมุดมารวย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแห่งใหม่ บนถนนรัชดาภิเษก ติดกับสถานฑูตจีน เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00-19:00 น. เดินทางสะดวกโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ ทางออก 3 ติดตามความรู้ที่น่าสนใจ กิจกรรม และหนังสือใหม่ของห้องสมุดคลิก  www.maruey.com


This website uses cookies

We use cookies to improve website performance. You can learn more about the use of cookies at Cookie Policy
Accept
Copyright © 2021 Maruey Knowledge & Resource Center, The Stock Exchange of Thailand
Cookie Policy | Privacy Policy | Terms and Conditions | Personal Data Request Form
version 1.0.5-3a6b4ff9