ทำอย่างไร จึงเป็นคนที่เรียนรู้ได้ตลอดชีวิต
เขียนโดย : รวิศ หาญอุตสาหะ
==============================
Lifelong Learning หรือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นคำที่ได้ยินกันบ่อยในยุคนี้ เพราะเราอยู่ในยุคที่ทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนแปลงและเคลื่อนที่ไปข้างหน้าในอัตราเร่งแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความรู้เดิมที่เคยมีหรือสิ่งที่เคยทำมา อาจไม่สามารถนำพาเราไปข้างหน้าได้อีกต่อไป
คนที่สามารถก้าวไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ต้องเป็นคนที่มีนิสัยของการเรียนรู้ตลอดชีวิต คำถามคือ แล้วเราจะต้องทำอย่างไร
บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง Mckinsey กล่าวถึง ทักษะแห่งอนาคต หรือ Skills of the future การมีทักษะความรู้เพียงอย่างเดียวนั้น ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตแล้ว จำเป็นจะต้องมีทักษะ การเรียนรู้ใหม่ และ Mindset ที่ดี เพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย Mckinsey เรียกทักษะนี้ว่า “Meta Skill”
Hard Skill คือ ทักษะเชิง “เทคนิคความรู้” เป็นทักษะความสามารถด้านอาชีพ หรือความชำนาญ ในการทำงานด้านนั้นๆ แม้จะเป็นทักษะเฉพาะ แต่ก็อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นทักษะนี้ก็จำเป็นต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อ Update ให้ทันการเปลี่ยนแปลงในด้านนั้นๆ
Soft Skill คือ ทักษะด้าน “สังคม” เป็นทักษะในการอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การติดต่อสื่อสาร, การทำงานเป็นทีม, การโน้มน้าวใจ, บุคลิกภาพ เป็นต้น ซึ่งทักษะนี้จำเป็นมากขึ้น ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เป็นทักษะที่ทำให้เราแตกต่างจาก AI ได้
Meta Skill เป็นทักษะใหม่ที่เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง เป็นการสร้างทัศนคติแบบ Growth Mindset หรือพร้อมที่จะเติบโต กระตือรือร้นในการเรียนรู้ สนุกกับการแก้ปัญหา และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทาย เพื่อพัฒนาให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
The World Economic Forum เคยตีพิมพ์รายงานฉบับหนึ่งซึ่งระบุว่าภายในปี 2022 คนที่อยู่ในตลาดแรงงานทั้งหมดจะต้องใช้เวลาเฉลี่ย 101 วัน ในการเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ แต่การเรียนรู้ที่ว่านั้นไม่ได้หมายถึงการเรียนรู้วิชาใหม่เสียทั้งหมด แต่เป็นการเรียนรู้จากการทำงานไปด้วย หรือเรียนเรื่องบางอย่างเพื่อที่จะเรียนรู้แบบพอประมาณ ซึ่งตรงกันข้ามกับการเรียนรู้เรื่องใหม่แบบจริงๆ ที่มีกระบวนการในการเรียนรู้ค่อนข้างซับซ้อน และเป็นการเรียนรู้ศาสตร์หรือวิชาใหม่เลย
สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราอยู่รอดในยุคนี้ได้คือ คุณต้องเป็นเจ้าของกระบวนการเรียนรู้ทั้งหมดของตัวเอง การที่คุณจะเป็น self-directed learners ได้นั้น คุณต้องควบคุมตัวเองให้สามารถเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ได้ และต้องเป็นเจ้าของกระบวนการในการเรียนรู้ทั้งหมด นั่นหมายความว่า เราต้องมีความเข้าใจถึงกระบวนการของความเป็น self-directed learners ซึ่งกระบวนการที่ว่ามีดังนี้
เรียนได้ด้วยตนเอง โดยที่ไม่ต้องให้ใครมาเคี่ยวเข็ญ
วิเคราะห์ได้ว่าเราต้องเรียนเรื่องอะไร และเพราะอะไร
มีเป้าหมายที่ชัดเจน
ต้องรู้ว่าจะใช้ทรัพยากรอะไรบ้างในการเรียนรู้ เช่น ต้นทุนเวลาหรือค่าใช้จ่าย
เลือกกลยุทธ์ในการเรียน เช่น เรียนผ่านคอร์สสัมมนา อ่านหนังสือ หรือทั้งหมด
ต้องประเมินผลได้ ข้อนี้สำคัญมาก เพราะอะไรที่วัดไม่ได้ ประเมินผลไม่ได้ เราจะบริหารจัดการไม่ได้
วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างบริบทที่จะทำให้เราสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง ก็คือ การมี Growth Mindset เพราะคนที่มี Growth Mindset จะอยากเรียนรู้ เชื่อว่าทุกอย่างพัฒนาได้ ไม่เก่งก็ฝึก ไม่รู้ก็ต้องเรียน ซึ่งจะแตกต่างจากคนที่มี Fixed Mindset เพราะคนที่มี Fixed Mindset จะเชื่อว่าทุกอย่างบนโลกนี้ถูกกำหนดมาไว้หมดแล้ว คนนั้นเก่งก็เพราะว่าเขาฉลาดอยู่แล้ว เราไม่รู้เรื่องนั้นหรอกเพราะเราไม่ได้เรียนมา หรือเราคงไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองหรอก มันคงยากเกินไปสำหรับเรา
และถ้าหากยังนึกไม่ออกว่าจะตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ยังไง ลองใช้เป้าหมายแบบ SMART ดูก็ได้ครับ
การตั้งเป้าหมายแบบ SMART ประกอบด้วย
S = Specific = ชัดเจน
M = Measurable = วัดผลได้
A = Action-oriented = ระบุเลยว่าจะทำอะไร
R = Realistic = อยู่ในความเป็นจริง
T = Time-defined = เป้าหมายที่ตั้งจะสำเร็จเมื่อไหร่
และอย่าลืมบริหารจัดการเวลาให้ดี เพราะคนที่เป็น self-directed learners ที่ดี จะต้องมีการวางแผนเรื่อง Time management ที่ดีด้วยเป็นของที่มาคู่กันเสมอ
อ่านต่อวิธีการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เช่น กฎ 5 ชั่วโมงของเบนจามิน แฟรงคลิน / Active Learning: เรียนรู้แบบแอ็กทีฟ และ จัดลำดับความสำคัญด้วยกฎ 80/20 ได้ในหนังสือ Super Productive เขียนโดย คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ครับ
หนังสือเล่มนี้ นอกจากจะพูดถึงวิธีการทำอย่างไร จึงเป็นคนที่เรียนรู้ได้ตลอดชีวิตแล้ว ยังได้รวบรวมเทคนิคเพื่อดึงศักยภาพสูงสุดของคุณ โดยได้เลือกสรรเทคนิคที่คิดว่าสำคัญ เพื่อช่วยค้นพบศักยภาพที่ซ่อนอยู่อีกมากในตัวคุณผู้อ่านครับ
------------------------------------------------------------
:: บทความที่เกี่ยวข้อง ::
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
เปิดโลกการเรียนรู้ สู่การลงทุน ผ่านคลังความรู้ขนาดใหญ่ ที่มีหนังสือกว่า 20,000 เล่ม ได้ที่ห้องสมุดมารวย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแห่งใหม่ บนถนนรัชดาภิเษก ติดกับสถานฑูตจีน เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:30-21:00 น. เดินทางสะดวกโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ ทางออก 3 ติดตามความรู้ที่น่าสนใจ กิจกรรม และหนังสือใหม่ของห้องสมุดคลิก http://www.maruey.com