One Search

Home

September 01, 202154 5

ที่มา : หนังสือ เลี้ยงลูกอย่างไรให้ได้ EF

เขียนโดย :  นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

ภาพประกอบ : https://freepik.com/

====================

โลกทุกวันนี้หมุนไปเร็วมาก การเลี้ยงลูกด้วยความรู้เดิมๆ อาจจะใช้ไม่ได้กับยุคนี้และโลกอนาคตอีกแล้ว เพราะโลกทัศน์ของเด็กๆ ที่เติบโตขึ้นทุกๆ วันในศตวรรษนี้ย่อมไม่เหมือนกับคนรุ่นก่อนแล้ว นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้เขียนเป็นจิตแพทย์และนักเขียนชื่อดัง โดยเฉพาะด้านพัฒนาการเด็กและวัยรุ่น ได้ถ่ายทอดแนวทางในการเลี้ยงลูกด้วยใช้ EF เพื่อให้เค้าเติบโตขึ้นมาอย่างพร้อมเผชิญกับโลกที่เราเองก็ยังไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นไปในแบบไหนแต่ต้องเตรียมพร้อมลูกให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขบนโลกใบนี้ให้เขาสามารถดูแลตัวเองได้ในวันที่ไม่มีพ่อแม่แล้ว คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะเคยได้ยินเรื่อง EF หรือ Executive Function มาบ้างแล้ว วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ EF ให้มากขึ้น

EF คือ ความสามารถของสมองและจิตใจที่ใช้ในการควบคุมความคิด อารมณ์ และ การกระทำเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย คุณหมอยังได้กล่าวว่า สมองดี ส่งผลให้สร้าง EF ดี เด็กพิเศษก็สามารถใช้ EF ในการพัฒนาสมองที่ดีได้ ซึ่งคำว่า "สมองดี" นั้นไม่ได้หมายถึงคนที่เรียนดีเกรด 4 สมอง (brain) โดยคุณหมอให้คำสำคัญ 4 คำคือ

      • ความคิด (cognition)

      • อารมณ์ (emotion)

      • การกระทำ (action)

      • เป้าหมาย (target)

องค์ประกอบของ EF ประกอบด้วย 3 เรื่อง คือ การควบคุมตนเอง ความจำใช้งาน และ การคิดวิเคราะห์อย่างยืดหยุ่น  โดยคุณหมอได้ให้ตัวอย่างการเล่นของเด็กที่หลากหลาย โดยเฉพาะ "การปีนสูง" จะเห็นภาพที่สุด คือ เด็กจะเจอความท้าทายแล้วตั้งเป้าหมายเพื่อให้ไปถึง จากนั้นก็ลงมือทำคือปีนขึ้นไป แล้ว focus ไม่วอกแวกแม้จะยากขึ้น จนถึงเป้าหมายในที่สุด คุณหมอได้เพิ่มเติมเรื่องของการจัดการศึกษาและกิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการในองค์ประกอบดังกล่าวอีกด้วย

การมี EF ที่ดี เป็นอย่างไร คำว่าดีอาจจะไม่ได้มีคำตอบที่ตายตัว เพราะทุกครอบครัวย่อมมีความแตกต่างกันไป แต่หลักการของ EF เมื่อปฎิบัติแล้วมี 3 เรื่องที่หวังผลคือ

  1. 1. ดูแลตัวเองได้ เริ่มตั้งแต่ลูกดูแลจัดการตัวเองได้ จากนั้นดูแลรอบข้างกายตัวเองอย่างเช่น เก็บของเล่น ต่อมาก็เป็นการดูแลบ้าน เช่น ทำงานบ้านช่วยพ่อแม่ และ สุดท้ายคือออกนอกบ้าน คือการทำตามกติกาของสังคม เป็นต้น

  2. 2. เอาตัวรอดได้ คำสำคัญของเรื่องนี้คือ Delayed Gratification คือ ความรู้สึกอดทนต่อความลำบากก่อนที่จะสบายทีหลัง เช่น การอ่านหนังสือ ทำงานยาก ๆ ให้สำเร็จ หรือ การเล่นที่ท้าทายและใช้เวลา ส่งผลให้เด็กไม่เร็วต่อความรู้สึกทางอารมณ์ที่จะนำไปสู่การตัดสินใจที่ขาดเหตุผลได้

  3. 3. มีอนาคตที่ใช้ได้ กลับไปที่เรื่องของเด็กเมื่อมีความสามารถตั้งเป้าหมายเป็น โตขึ้นก็จะใช้ทักษะนั้นเพื่อตั้งเป้าหมายอนาคตของตนเอง เมื่อเห็นอนาคตแล้วก็วางแผน ลงมือทำ มีความยืดหยุ่น คือ สามารถปรับแผนใหม่ได้ผลที่ได้ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็จะรับผิดชอบต่อการตัดสินใจและกระทำนั้น ไม่โทษใคร ปรับแผนแล้วลงมือทำใหม่

นอกเหนือจากนั้นคุณหมอนำเสนอทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย ทักษะเรียนรู้ ทักษะชีวิต และ ทักษะไอที และการปรับแนวคิดการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยสำหรับโรงเรียนและครูผู้สอนด้วย PBL การถามคำถามชวนคิดอย่างไร และ AAR (After Action Review) รวมถึงแนวทางการใช้ PLC (Professional Learning Community) ของโรงเรียนที่ควรเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ลูกของเราสามารถทันต่อโลกในอนาคตที่เขาต้องพบเจออย่างมากที่สุด


This website uses cookies

We use cookies to improve website performance. You can learn more about the use of cookies at Cookie Policy
Accept
Copyright © 2021 Maruey Knowledge & Resource Center, The Stock Exchange of Thailand
Cookie Policy | Privacy Policy | Terms and Conditions | Personal Data Request Form
version 1.0.5-3a6b4ff9