One Search

Home

October 29, 202125 4

โดย SET X ให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม

======================

In Focus

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดว่า..จะออมเงินได้อย่างไร เมื่อมีรายได้ไม่มาก และมีภาระที่ต้องใช้จ่าย เราอยากชวนคุณมาอ่านเทคนิคดี ๆ เหล่านี้ ที่จะช่วยสร้างเงินออมพร้อมบริหารเงินของคุณให้งอกเงย..เพียงแค่คุณมี ‘ความตั้งใจ’ และทำตามอย่างมีวินัย !!

 

“ใครอยากเป็นเศรษฐี? ...ฉัน​น่ะสิ​ฉันน่ะ​สิ ใครอยากมีรถทัวร์?...ฉัน​น่ะสิ​ฉันน่ะ​สิใครอยาก​เป็น​เจ้าสัว?...ฉัน​น่ะสิ​ฉันน่ะ​สิใคร​อยาก​ตัว​หุ้มทอง?...ฉัน​น่ะสิ​ฉันน่ะ​สิ” หนึ่งมุขตลกหรือเพลงสั้นที่สร้างความตลกขบขันและความบันเทิงในวงสนทนาของใครหลายคน


ซึ่งในความจริงนั้น การจะกลายเป็น “เศรษฐี” หรือหนึ่งในบริบทข้างต้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ลำบากและยากเย็นสำหรับใครหลายคน เพื่อที่จะให้ตัวเองประสบความสำเร็จหรือถึงเป้าหมายที่ตนเองวางไว้อย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งบางคนก็อาจจะถึงฝั่งฝันได้ แต่ก็มีอีกมาก...ที่ไม่สามารถไปถึงได้เช่นกัน


ด้วยอุปสรรคอย่างสถานะทางการเงิน ภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปจนถึงหนี้สินอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดจาก ‘ความตั้งใจ’ และ ‘ไม่ตั้งใจ’ ก็ตาม ที่อย่าว่าแต่ความเป็นไปได้ที่จะทำให้ตัวเองกลายเป็นเศรษฐี...การจับเงินก้อนสักหนึ่งก้อนก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยด้วยซ้ำแต่ก็ไม่ใช่ว่าการที่เราจะอยู่เฉย ๆ หรือไม่มีภาระหนี้ จะสามารถทำให้เรามีเงินก้อนได้ง่ายๆ ดังนั้นเราจะต้องมีวิธีการ เทคนิค หรือเคล็ดลับ ซึ่งก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะนำมาใช้เป็นแนวทางและการกำหนดเป้าหมายด้วยเช่นกัน


สูตร (ไม่) ลับการออม...สร้างเงินก้อนด้วย
‘4 เทคนิค’ แสนง่าย


วันนี้ เรามี ‘4 เทคนิค’ ดี ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังสนใจหรือกำลังหาแนวทางในการสร้างเงินให้งอกเงยเป็นเงินก้อนในอนาคต ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่ใครหลายคนอาจจะ ‘คาดไม่ถึง’ และเป็นวิธีที่สามารถเริ่มทำด้วยตัวเองได้


เทคนิคแรก
ฝึกนิสัยการออมก่อนใช้’ เป็นสูตรง่าย ๆ ที่ทำให้คนธรรมดากลายเป็นเศรษฐีได้จริง หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ทุกครั้งที่มี “รายรับ” หรือ “รายได้” เข้ามา ให้เราหักเงินจำนวนหนึ่งออกมาเพื่อเป็น “เงินออม” ทันที โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าต้องเป็นเงินที่ไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายอื่น และเมื่อเป็นเงินออมแล้วจะต้องไม่เอามาใช้จ่ายเด็ดขาด ซึ่งต้องทำให้เป็นวินัยในแต่ละเดือนอย่างสม่ำเสมอเงินส่วนที่เหลือค่อยนำไปใช้จ่าย นี่จะเป็นการรับประกันตัวเองได้ว่า...คุณจะมี “เงินเก็บออม” ทุกเดือนแน่นอน


หลังจากที่เราได้หักเงินบางส่วนมาเป็นเงินออม เทคนิคที่สอง ที่มีความสำคัญและเป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายคนอาจจะมองข้ามหรือละเลยไป คือ “การจดรายรับ-รายจ่าย” ซึ่งแนะนำให้ทำให้เป็นนิสัย เพื่อเช็กว่ามีรายจ่ายใดที่สามารถตัดหรือลดลงได้บ้าง ซึ่งก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ให้เราสามารถบริหารจัดการเงินและการวางแผนการออมให้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี

เทคนิคสร้างเงินออม

 

“อย่าลืมว่า... ‘รายจ่ายที่ลดลงได้’ เท่ากับเป็น ‘รายได้ที่เพิ่มขึ้น’ ของเราได้เช่นกัน เพราะในแต่ละเดือน ทุก ๆ คนก็จะมีสารพัดค่าใช้จ่ายทั้งที่ ‘จำเป็น’ และ ‘ไม่จำเป็น’ ซึ่งการจดบันทึกนั้นจะทำให้เรา ‘มองเห็นภาพได้ชัดขึ้น’ ของรายจ่ายแต่ละรายการ แน่นอนว่า..รายจ่ายบางรายการที่จำเป็นก็อาจจะตัดทิ้งไม่ได้ เช่น ค่าผ่อนบ้านหรือคอนโด, ค่าผ่อนรถยนต์,  ค่าน้ำค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายกินอยู่ในชีวิตประจำวัน เป็นต้น แต่ยังมีบางรายการที่ไม่จำเป็น เช่น การซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยที่เกินความจำเป็น, การสังสรรค์นอกบ้าน เป็นต้น เมื่อเห็นภาพ..เราก็จะสามารถบริหารจัดการรายจ่ายของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ปล่อยให้ใช้จ่ายเกินตัวจนอาจทำให้การวางแผนการเงินล่มไม่เป็นท่าได้เช่นกัน”


ต่อจากการ สร้างวินัยการออมและการจดรายรับ-รายจ่ายแล้วเทคนิคต่อมา คือ เทคนิคที่สาม การจัดสรรเงินออกเป็น 4 ส่วนให้เป็นนิสัย’ ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่เราควรรู้จัก คือการแบ่งรายได้ออกเป็น 4 ส่วนเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างครบถ้วน


โดยส่วนแรกเป็น ‘เงินออม’ ซึ่งแนะนำให้เก็บไว้ประมาณ 1 ใน 4 ของเงินเดือน ส่วนที่ 2 เป็น ‘เงินใช้’ คือเงินที่เอาไว้ใช้จ่ายต่าง ๆ ตลอดจนเป็นเงินที่ไว้ให้รางวัลกับชีวิตของตัวเอง ส่วนที่ 3 เป็น ‘เงินให้’ เพื่อตอบแทนพ่อแม่ หรือแบ่งเงินทำบุญ เป็นส่วนที่เราให้คืนกับผู้มีพระคุณและสังคมนั่นเอง และส่วนสุดท้ายคือ ‘เงินสำรอง’ เป็นเงินที่กันเอาไว้เผื่อหยิบใช้ยามจำเป็น เพราะย่อมดีกว่าวิธีกู้หนี้ยืมสินเป็นแน่แท้


เทคนิคสุดท้าย
คือ ‘การให้เงินช่วยทำงาน’ หรือการแบ่งเงินออมบางส่วนออกมาแล้วนำไปลงทุนเพิ่ม เพื่อให้เงินมีการงอกเงยขึ้นซึ่งแม้ว่าการเก็บออมเงินเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว แต่การเก็บเงินไว้ในธนาคารที่ได้รับผลตอบแทนย้อนหลังในช่วง 10 ปี ที่มีดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.65% ต่อปี (ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย) นั้น ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์การสร้างความมั่งคั่งให้กับเราได้ เพราะด้วยผลตอบแทนระดับนี้กว่าเงินออมเราจะโตเป็น 2 เท่า จะต้องใช้เวลาประมาณ 44 ปี (ที่มา: กฎของเลข 72) ซึ่งนั่นอาจทำให้เงินออมของเราโตไม่ทันใช้


“การแบ่งเงินออมบางส่วนไปลงทุนเพิ่ม จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับเงินออมของคุณได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น หากเรามีเงินออมอยู่แล้ว และเราแบ่งเงินออมบางส่วนไปลงทุนใน ‘กองทุนรวมหุ้นไทย’ ที่ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ 5.14% ต่อปี (ที่มา: บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด) เงินออมในส่วนนี้ของเราจะโตเป็น 2 เท่า ได้ในระยะเวลาที่สั้นลงเหลือเพียง 14 ปี เท่านั้น เร็วกว่าเดิมถึง 3 เท่าเลยทีเดียว ดังนั้นการให้เงินออมได้ทำงานก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยตอบโจทย์การสร้างความมั่งคั่งของเราได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว


ที่สำคัญการลงทุนในปัจจุบันก็เป็นเรื่องที่ง่าย ด้วยเทคโนโลยีก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด โดยสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว หรือที่เรียกว่า ลงทุนได้แค่ ‘ปลายนิ้วสัมผัส’ เท่านั้นเอง”


ทั้ง “4 เทคนิค” เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นสำหรับคนต้องการจะออมเงินหรือต้องการวางแผนที่จะมีเงินก้อนในชีวิต ซึ่งใครที่นำไปใช้ก็อาจจะมีการปรับความ
‘เข้มงวด’ หรือ ‘ลดหย่อน’ เงื่อนไขขั้นตอนบางอย่างได้ เพื่อไม่ให้เกิดความตึงเครียดจนเกินไปจนอาจนำไปสู่การล้มเลิกไปในที่สุด แต่ด้วย “เคล็ด (ไม่) ลับ” ทั้ง ‘4 เทคนิค’ นี้ ใคร ๆ ก็สามารถทำเงินออมให้งอกเงยได้ง่าย ๆ เริ่มได้เลย...แม้ว่าวันนี้ เราอาจจะยังมีเงินออมที่ยังไม่มาก แต่เราก็สามารถเริ่มลงทุนได้...เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง !!!

 

>>สนใจเปิดบัญชีกองทุนรวม: คลิกเลย!!



คำเตือน: ผลตอบแทนในอดีต มิได้รับประกันถึงผลตอบแทนในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน


This website uses cookies

We use cookies to improve website performance. You can learn more about the use of cookies at Cookie Policy
Accept
Copyright © 2021 Maruey Knowledge & Resource Center, The Stock Exchange of Thailand
Cookie Policy | Privacy Policy | Terms and Conditions | Personal Data Request Form
version 1.0.5-85efc982